แดดประเทศไทยมีความเข้มข้นของรังสี UV (Ultraviolet Radiation) ที่สูง ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่สามารถทำให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้ครับ บอกกันตรงๆเลย หากได้รับการสัมผัสเป็นระยะเวลานานและต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการออกแดดจัดและมีการสะสมของแสงแดดมาก ๆ ระวังเรื่องมะเร็งผิวหนังได้เลยครับ

มะเร็งผิวหนัง

ความเสี่ยงของมะเร็งผิวหนังของแดดประเทศไทย

  1. รังสี UV และมะเร็งผิวหนัง
  • รังสี UV จากแสงแดดประกอบไปด้วย UV-A และ UV-B, ซึ่งทั้งสองชนิดนี้สามารถทำให้เกิดความเสียหายแก่ DNA ในเซลล์ผิวหนังได้
    • UV-A สามารถซึมลึกลงไปในผิวหนังชั้นลึก และส่งผลให้เกิด การเสื่อมสภาพของคอลลาเจน และ ความชรา ของผิวหนัง ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งผิวหนังในระยะยาว
    • UV-B เป็นรังสีที่ทำให้เกิด การไหม้แดด (Sunburn) และเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิด การกลายพันธุ์ของเซลล์ผิวหนัง ซึ่งสามารถนำไปสู่การเกิด มะเร็งผิวหนัง โดยเฉพาะ มะเร็งผิวหนังชนิดเซลล์ฐาน (Basal Cell Carcinoma) และ มะเร็งผิวหนังชนิดเซลล์แผ่นหนังกระดูก (Squamous Cell Carcinoma)
  1. การสัมผัสแสงแดดในประเทศไทย
  • ประเทศไทยตั้งอยู่ใกล้กับเส้นศูนย์สูตรและมีแสงแดดที่ค่อนข้าง แรงและตรง ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในช่วงกลางวัน ช่วงเวลา 10.00 – 16.00 น. ซึ่งเป็นเวลาที่รังสี UV จะมีความเข้มข้นสูงที่สุด
  • หากคนเรา สัมผัสแสงแดด ในช่วงเวลานี้บ่อย ๆ โดยไม่ปกป้องผิวหนังจากแสงแดด ก็จะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งผิวหนังได้
  1. ปัจจัยเสี่ยงในการเกิดมะเร็งผิวหนัง
  • การสัมผัสแดดมากเกินไป โดยไม่ทาครีมกันแดดหรือสวมเสื้อผ้าที่ป้องกันรังสี UV
  • การมีประวัติไหม้แดด หรือการโดนแดดจัดในวัยเด็ก ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งผิวหนังในภายหลัง
  • คนผิวขาว หรือผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งผิวหนังอาจมีความเสี่ยงสูงกว่า
  • การสัมผัสแสงแดดโดยตรงในระยะเวลานาน โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่ทำงานกลางแจ้งหรือออกกำลังกายภายใต้แสงแดดเป็นเวลานาน
  1. การป้องกันมะเร็งผิวหนังจากแสงแดด

การป้องกันสามารถทำได้หลายวิธีเพื่อ ลดความเสี่ยง ที่จะเกิดมะเร็งผิวหนังจากการสัมผัสแสงแดด:

  • ทาครีมกันแดด ที่มีค่า SPF อย่างน้อย 30 และทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมงหรือหลังจากเหงื่อออกหรือว่ายน้ำ
  • หลีกเลี่ยงการออกแดดในช่วงกลางวัน ระหว่าง 10.00 – 16.00 น.
  • สวมเสื้อผ้าป้องกันแสงแดด เช่น หมวก, เสื้อแขนยาว, และกางเกงขายาว
  • สวมแว่นกันแดด ที่ป้องกันรังสี UV เพื่อปกป้องดวงตา
  1. การตรวจเช็กสุขภาพผิว
  • การตรวจสุขภาพผิวเป็นประจำและสังเกตการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นบนผิวหนัง เช่น ปาน, แผล, หรือ ตุ่มที่มีการเปลี่ยนแปลงสี หรือ ขนาด เป็นการป้องกันมะเร็งผิวหนังในระยะเริ่มต้น

แดดแบบไหนเสี่ยงต่อมะเร็งผิวหนัง

  1. ช่วงเวลาของแสงแดด
  • ช่วงเวลาที่รังสี UV เข้มข้นที่สุด คือระหว่างเวลา 10.00 น. ถึง 16.00 น. ในช่วงเวลานี้ รังสี UV จะมีความเข้มข้นสูงที่สุด และเป็นช่วงที่เราควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดโดยตรง
  • แสงแดดในช่วงนี้สามารถทำให้เกิดการ ไหม้แดด (Sunburn) ได้ง่าย และเป็นปัจจัยเสี่ยงหลักที่ทำให้เกิด มะเร็งผิวหนัง
  1. ความเข้มข้นของรังสี UV
  • UV-A: รังสี UV-A จะซึมลึกเข้าไปในชั้นผิวหนัง (Dermis) และเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดการ แก่ก่อนวัย (Premature Aging) และความเสียหายของคอลลาเจน ซึ่งส่งผลต่อการเกิดมะเร็งผิวหนังในระยะยาว
  • UV-B: รังสี UV-B มีความสามารถในการทำให้ ผิวไหม้ (Sunburn) และทำให้เกิดการ กลายพันธุ์ของเซลล์ผิวหนัง ซึ่งอาจนำไปสู่การเกิดมะเร็งผิวหนังชนิดต่าง ๆ เช่น มะเร็งผิวหนังชนิดเซลล์ฐาน (Basal Cell Carcinoma) และ มะเร็งผิวหนังชนิดเซลล์แผ่นหนังกระดูก (Squamous Cell Carcinoma)
  1. ความแรงของแสงแดดในแต่ละภูมิประเทศ
  • ในประเทศเขตร้อน เช่น ประเทศไทย, อินเดีย, หรือ ออสเตรเลีย ซึ่งมีแสงแดดแรงตลอดทั้งปี แสงแดดที่ได้รับในพื้นที่เหล่านี้มีความ เข้มข้นสูง และมี รังสี UV ที่มีผลต่อผิวหนัง มากกว่าพื้นที่ที่อยู่ในเขตหนาวหรือขั้วโลก
  • ที่สูง (Elevation) หรือ ภูเขา: ในพื้นที่ที่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล รังสี UV จะมีความเข้มข้นสูงขึ้น เพราะชั้นบรรยากาศบางลงและกรองรังสี UV ได้น้อย
  1. การโดนแสงแดดบ่อยครั้ง
  • การ โดนแดดในระยะยาว โดยไม่มีการปกป้องผิวหนังจากแสงแดด (เช่น การทาครีมกันแดด หรือการสวมเสื้อผ้าป้องกัน) จะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งผิวหนัง
  • การ โดนแดดในวัยเด็ก และมีประวัติ ไหม้แดด (Sunburn) ซ้ำ ๆ จะเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งผิวหนังในภายหลัง
  1. ผลกระทบจากแสงแดดที่มีการสะท้อน
  • แสงแดดที่ สะท้อนจากผิวน้ำ (เช่น ทะเลหรือสระว่ายน้ำ), หิมะ, หรือ พื้นผิวสะท้อนแสงอื่น ๆ อาจทำให้เราได้รับการสัมผัสกับรังสี UV เพิ่มขึ้น เพราะมันสะท้อนกลับมาที่ผิวหนัง
  1. การไม่ปกป้องผิวจากแสงแดด
  • การไม่ทาครีมกันแดด ที่มีค่า SPF (Sun Protection Factor) ที่เพียงพอสำหรับการป้องกันรังสี UV, หรือการ ไม่ใส่เสื้อผ้าที่ป้องกัน UV (เช่น เสื้อผ้าที่มีความหนาและป้องกัน UV) จะเพิ่มความเสี่ยงในการโดนรังสี UV และทำให้เกิดมะเร็งผิวหนัง

การป้องกันจากแสงแดดเพื่อหลีกเลี่ยงมะเร็งผิวหนัง

เพื่อป้องกันมะเร็งผิวหนังจากแสงแดด ควรทำตามแนวทางดังนี้:

  • ทาครีมกันแดด ที่มีค่า SPF อย่างน้อย 30 และทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง หรือหลังจากเหงื่อออกหรือว่ายน้ำ
  • หลีกเลี่ยงการออกแดดในช่วง 10.00 น. – 16.00 น. โดยเฉพาะในวันที่แสงแดดแรง
  • สวมเสื้อผ้าป้องกันแดด เช่น เสื้อแขนยาว, หมวกปีกกว้าง, และกางเกงขายาว
  • สวมแว่นกันแดด ที่สามารถป้องกันรังสี UV ได้
  • ใช้ร่ม หรือหาที่ร่มเพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดโดยตรง

สรุป

แสงแดดที่มี รังสี UV-A และ UV-B ซึ่งมีความเข้มข้นสูงในช่วงกลางวัน (10.00 – 16.00 น.) และในพื้นที่เขตร้อน เช่นประเทศไทย สามารถทำให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้หากได้รับการสัมผัสโดยไม่ป้องกันผิวจากแสงแดดเป็นเวลานานครับ

และใครยังไม่มีงบในการซื้อร่ม ก็ต้องนี่เลยครับ Globallotto หวยไทยและต่างประเทศแบบถูกกฎหมาย ในรูปแบบหวยออนไลน์ มีรัฐบาลให้การรับรอง และออกใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย อัตราจ่ายสูง และสามารถยกเลิกได้ฟรี

ไม่ต้องรอให้เว็บเอเย่นต์โกงตอนถูกหวย เลือกเว็บถูกกฎหมายตั้งแต่แรกจบเรื่องเลยครับ เข้ามาดูก่อนได้ที่ Globallotto ครับ